เด็กหัวร้อน…เจนรบ สำเภาดี : ผมบอกน้องๆ ว่าอ่านโซเชี่ยลได้ แต่อย่าคิดมาก

เด็กหัวร้อน! เด็กเกรียน! เด็กไม่รู้จักโต! สารพัดคำต่อว่าถาโถมเข้าใส่ เจนรบ สำเภาดี กองหน้ากัปตันทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 22 ปี แม้พา “ช้างศึก” คว้าเหรียญทองซีเกมส์ 2017 ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แต่เพราะการโต้ตอบคำวิพากษ์วิจารณ์แฟนบอลผ่านทางโซเชี่ยลมีเดีย ทำให้เขายิ่งถูกต่อว่าเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในฐานะบุคคลสาธารณะ
แต่ก็นั่นแหละ… ความจริงเขาและเพื่อนร่วมทีม ต่างถูกกระแสกดดันโจมตีเข้าใส่มาตั้งแต่รวมทีมกันเมื่อปีก่อน ลากยาวจนมาถึงศึกชิงแชมป์ เอเชีย 2018 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก และศึกซีเกมส์ 2017
2 ครั้ง 2 ครา เต็มๆ กับการอดรนทนไม่ไหว ตัดสินใจโต้ตอบแฟนบอลกลับไป…เกิดขึ้นเพราะอะไร? ความกดดันที่เขาต้องเจอมาตลอด 1 ปีเต็มเป็นอย่างไรบ้าง? FourFourTwo Thailand ขอพูดคุยกับ เจนรบ สำเภาดี แบบสบายๆ เกี่ยวกับการฝ่าด่านมรสุมคำวิจารณ์จนคว้าเหรียญทองซีเกมส์
พายุที่ชื่อว่า “กดดัน”
“พอได้แชมป์ก็เหมือนทำตามเป้าหมายได้เรารู้สึกโล่งใจกับทุกอย่างที่โดนกดดันมา” เจนรบ เริ่มเล่าให้กับโฟร์โฟร์ทูฟังแบบสบายๆ ที่โรงแรมดังย่านวิภาวดี หลังจากผงาดพา “ช้างศึก” นำเหรียญทองซีเกมส์ 2017 กลับบ้าน “ความกดดันตอนไปซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมา มันหนักจริง… หนักยิ่งกว่าตอนที่ผมได้เหรียญทองที่สิงคโปร์ (ซีเกมส์ 2017) ซะอีก”
แน่ละ… ก็ “ช้างศึก” ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ไม่ได้เน้นรูปแบบการเล่นที่เอ็นเตอร์เทนหัวใจแฟนบอลสักเท่าไหร่ เขาเน้นใช้จุดเด่นจากผู้เล่นที่มี มันอาจดูขัดใจแฟนบอลที่ติดภาพการเล่นแพสแอนด์มูฟอันสวยงามจากยุคของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย และเจนรบ สำเภาดี ในฐานะผู้นำของทีมชุดนี้ ก็พลอยต้องแบกรับภาระความกดดันจากเหล่าแฟนบอลเข้าเต็มเปา… มันแตกต่างจากครั้งที่เขาเคยถูก ซิโก้ เรียกติดธงชุดยู23 ตั้งแต่ปี 2015 โดยสิ้นเชิง
“ครั้งนี้ผมต้องเป็นรุ่นพี่ใหญ่ในทีม และต้องเป็นกัปตันทีมด้วย มันก็กดดันมากเป็นพิเศษ”
“ตอนปี 2015 ครั้งแรกที่ผมติดทีมพี่โก้ (ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2016 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก) ผมเข้าไปแบบน้องเล็ก เราไม่ใช่ตัวความหวังของทีม หน้าที่ของเรา คือ แค่ทำเต็มที่ ยิงไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ไม่ได้มีความกดดัน”
“เราแค่ต้องเล่นกับพี่ๆ ในทีมให้ได้ เล่นไปตามที่โค้ชสั่ง”
ปีแจ้งเกิด
ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน…ก่อน เจบรบ สำเภาดี ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ 2017 เขาเป็นเพียงเด็กน้อยหน้าใหม่ในสายตาแฟนบอล ก้าวขึ้นมาจากทีมบีซีซี เอฟซี ทีมน้องของบีอีซี เทโรศาสน และติดทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2016 รอบคัดเลือก ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ท่ามกลางคู่แข่งอย่างเกาหลีเหนือ, ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา แบบสุดเซอร์ไพรส์
“ตอนแรกคิดว่าอาจมีแค่ชื่อเรียกไปซ้อมเฉยๆ แต่ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี เพราะผมเคยอยู่กับพี่เจ (ชนาธิป สรงกระสินธ์), พี่ตั้ม (ธนบูรณ์ เกษารัตน์), พี่บาส (พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา) ในสโมสรอยู่แล้ว เวลาเลิกซ้อมพี่โก้ก็จะเรียกกองหน้าไปหัดวางเท้ายิงตลอดเพื่อสร้างความมั่นใจเกือบทุกๆวัน และตอนหลังก็ปรากฏว่าติดทีมเฉย ผมก็ยังงงๆ”
เจนรบ ไม่ได้ทำให้ซิโก้ ผิดหวัง เพราะระหว่างที่ไทยกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เสมอกับกัมพูชา อยู่ 1 – 1 และหากทำได้แค่เสมอ พวกเขาต้องชนะทั้ง ฟิลิปปินส์ และเกาหลีเหนือ ให้ได้ เพื่อโอกาสเข้าไปแข่งขันรอบสุดท้าย… เจนรบ ถูกซิโก้ ส่งลงเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเกม
“เขา (เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง) บอกผมว่าทำให้เต็มที่ มีโอกาสแล้วเหลืออีก 15 นาที” เจนรบ เล่าถึงบทสนทนาสั้นๆ ที่อดีตยอดกุนซือช้างศึกมาบอกข้างหูเขาก่อนส่งลงสนาม
ไม่นานนัก…เจนรบ รับบอลจาก ชนาธิป สรงกระสินธ์ หลุดเข้าไปจัดระเบียบร่างกาย เอี้ยวตัว ปั่นด้วยขวาแสกหน้าผู้รักษาประตูกัมพูชาเข้าไปในนาทีสุดท้าย ช่วยให้ไทยชนะ 2-1 คว้า 3 คะแนนสุดสำคัญ ประตูนั้นเปรียบเสมือนการแจ้งเกิดของ นาย เจนรบ สำเภาดี ต่อหน้าแฟนบอลในระดับประเทศ หลังเคยโดดเด่นแค่ในวงการลูกหนังขาสั้น…จบรอบคัดเลือก ครั้งนั้น ไทยได้สิทธิ์ไปแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้ายที่กาตาร์ และ เจนรบ ก็เริ่มได้รับการจับจ้อง ก่อนถูกจับลงสนามในนามสโมสรบีอีซี เทโรศาสน มากขึ้น
ดูบอลออนไลน์ฟรี
ดูบอลสดฟรี