เดวิด เบ็คแฮมอดีตปีกขวาเท้าชั่งทองเปิดเผยประตูที่ทำได้และความทรงจำตอนอยู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เขาชอบรวมถึงยืนยันไม่สนใจจับงานโค้ชในขณะนี้ผ่านการไลฟ์สดเมื่อวาน
ตำนานสุดหล่อวัย 42 ปีมาถ่ายโฆษณาที่ประเทศไทยช่วงสุดสัปดาห์นี้โดยเมื่อวันเสาร์ได้ไลฟ์สดบนเฟซบุ๊คตอบคำถามจากแฟนๆคัดเลือกโดยวู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดาพิธีกรชื่อดัง
หนึ่งในคำถามคือประตูที่ยอดเยี่ยมสุดในการค้าแข้งซึ่งเบ็คแฮมตอบว่า “ผมโชคดีที่ได้ยิงประตูสำคัญๆ ประตูสวยๆในการค้าแข้ง”
“ผมยิงเยอะนะแต่ประตูหนึ่งที่ผมจำได้ หนึ่งในประตูยอดเยี่ยมสุดคือเกมกับเดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่าที่ผมยิงข้ามหัวโกล”
“แต่ถ้าประตูโปรดต้องลูกยิงครึ่งสนาม มันคือประตูที่พิเศษตลอดมา แต่ลูกที่ยิงกรีซก็สำคัญต่อทีมชาติอังกฤษ”
อีกหนึ่งคำถามเกี่ยวกับฟุตบอลคือสิ่งที่ระลึกและความทรงจำโปรดตอนอยู่’ปีศาจแดง’ซึ่งเขาตอบว่า “สิ่งที่ระลึกก็คงต้องเป็นปีที่ได้ 3 แชมป์ ทั้ง 3 แชมป์ที่ได้มามันสุดยอด แล้วก็พวกเสื้อที่ผมสะสมไว้ตลอดหลายปี มันพิเศษต่อผมมาก ผมมีที่พิเศษในบ้านไว้เก็บพวกมัน”
“ความทรงจำพิเศษๆเหรอ ก็มีตอนได้เซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์ยูธ คัพกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เล่นกับแก๊งคลาส ออฟ ’92 เติบโตมากับทีมชุดนั้น และเข้าไปอยู่ในทีมชุดประสบความสำเร็จซึ่งมีพี่ๆอย่างรอย คีน, ไบรอัน ร็อบสัน, มาร์ค ฮิวจ์ส, เอริค คันโตน่า”
“การได้เล่นกับพวกเขาเหล่านี้นับเป็นความฝันของพวกเรา ผมถูกพูดถึงว่าเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จในฐานะหนึ่งในคลาส ออฟ ’92 แต่เราคงไม่ประสบความสำเร็จถ้าไม่มีพวกรอย คีน, สตีฟ บรู๊ซ, แกรี่ พัลลิสเตอร์, เอริค คันโตน่า พวกเขาปูทางให้พวกเรา ก็ประมาณนี้ครับ”
ปิดท้ายอีกคำถามเกี่ยวกับฟุตบอลคือหากได้รับข้อเสนอให้ไปคุมทีมในอินเดียจะสนใจลองหรือไม่ซึ่ง’พี่เบ็คส์’กล่าวว่า “มีคนถามผมตลอดนะว่าจะเป็นโค้ชหรือเป็นผู้จัดการทีมไหม คือมันยังไม่ใช่สิ่งที่ผมมีไฟอยากทำ ณ ตอนนี้ ไม่ว่าอาชีพ, ธุรกิจ หรือชีวิตผมต้องทำในสิ่งที่ผมมีไฟอยากทำ”
“ซึ่งชั่วโมงนี้การเป็นโค้ชยังไม่ใช่หนึ่งในนั้นแต่ก็ไม่แน่ มันอาจมีโอกาสเข้ามาให้ผมท้าทายตัวเองหรือเป็นโอกาสทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนและอยากลองดู ถ้าอย่างนั้นก็ไม่แน่อาจมีโอกาสจากอินเดียหรือจีนหรือที่อื่นๆเข้ามาก็ได้ใครจะรู้”
“แต่ ณ ตอนนี้ผมยุ่งๆกับสิ่งที่ทำอยู่ซึ่งผมมีความสุขกับมัน”
อีกคำถามน่าสนใจซึ่งเราไม่ได้ใส่ประเด็นในพาดหัวคือ’อยากได้รับการจดจำในฐานะอะไร?’ซึ่งเขาตอบว่า “นักฟุตบอลแน่นอนครับ”
“มันคือสิ่งที่ผมรักอันดับหนึ่ง นอกจากครอบครัวมันคือแพสชั่นอันดับหนึ่งของผม ผมไม่เคยมองมันเป็นงาน มันคือความสนุก คือสิ่งที่ผมใส่ใจและรักมาตลอดหลายปีและจะรักมันตลอดไปด้วย”
“ผมได้เป็นนักฟุตบอลคนหนึ่งที่ได้ชื่อว่าทุ่มเทและประสบความสำเร็จ ผมมีบุญที่ได้เล่นกับสโมสรชั้นนำอื่นๆและรับใช้ทีมชาติมาเป็นเวลานานผมจึงภูมิใจกับเส้นทางค้าแข้งและแน่นอนอยากเป็นที่รู้จักในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ”
“แต่งานกับยูนิเซฟก็เป็นอีกอย่างที่ผมใส่ใจมากและภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่คอยช่วยเหลือเด็กๆทั่วโลก”
ประเด็นอื่นๆที่น่าสนใจจากปากเบ็คแฮมในการไลฟ์สดครั้งนี้
– ( 21:02 ) เบ็คแฮม พูด “สวัสดีครับ” “ขอบคุณครับ”
– นี่เป็นการไลฟ์ครั้งแรกในชีวิต
– ครั้งสุดท้ายที่มาไทยต้องย้อนไปสมัยยังค้าแข้งอยู่กับเรอัล มาดริด ( น่าจะช่วงเดียวกับที่มาซื้อศาลพระภูมิ 555 )
– ยืนยันว่าไม่ได้ซื้อบ้านไว้ในไทยหลายหลังอย่างที่เป็นข่าว
– พอใจที่ลูกๆเจอสิ่งที่อยากทำ ( บรู๊คลิน ออกหนังสือภาพ , โรมีโอ ชอบเล่นเทนนิส , ครูส ชอบร้องเพลง , ฮาร์เปอร์ เซเว่น ลูกสาวอยากเป็นนักฟุตบอล )
– ยังไม่เคยลองทำสมาธิ
– อยากลองเรียนมวยไทย
– ออกกำลังกาย 5 วันต่อสัปดาห์เพื่อรักษาความฟิตให้สมกับที่เป็นนักกีฬา เช่น คาร์ดิโอ ต่อยมวย วิ่ง
– แต่นานๆทีก็ดื่มไวน์ กินพิซซ่า กินเบอร์เกอร์ ชอบกินไก่ทอด
– คุยว่าความอึดคือจุดขาย หลังจบเกม 90 นาทีก็ยังวิ่งไหว
– ไว้จะพาครอบครัวไปศูนย์บริบาลช้าง ( Elephant Nature Park ) ที่จังหวัดเชียงใหม่ถ้าได้มาประเทศไทยอีก
– ยอมรับว่ามานึกดูแล้วไม่น่าทำผมเดรดล็อกไปพบ เนลสัน แมนเดล่า ( อดีตประธานาธิบดีประเทศแอฟริกาใต้ผู้ล่วงลับ )
– เคยตื่นเต้นที่ได้พบคนใหญ่คนโตคนอื่นๆเหมือนกัน เช่น แมนเดล่า, บารัค โอบาม่า , ควีนเอลิซาเบธ
– ใครจีบลูกสาวต้องผ่านด่านตรวจสุดเข้มจาก’พ่อเบ็คส์’และพี่ชายทั้งสาม
– เลือกไม่ถูกเอาใครมารับบทตัวเองหากมีหนังชีวประวัติเดวิด เบ็คแฮม