พูดแบบนี้…ต่อยกันดีกว่า : 14 โคตรคำหยามแห่งวงการลูกหนัง

วงการฟุตบอลมีวาทะแสบๆ คันๆ ให้ได้ฟังกันเสมอ และกลุ่มคนเหล่านี้ไม่เคยสนใครหน้าไหนก่อนจะพูดอะไรออกไปด้วยสิ
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน VS เรอัล มาดริด
ปี 2008 เซอร์ อเล็กซ์ จำต้องตอบคำถามถึงข่าวลือเรื่องที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกลงยอมขาย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์เบอร์ 1 ของทีมในตอนนั้นให้กับ เรอัล มาดริด หลังจบฤดูกาล ซึ่งป๋าเฟอร์กี้ตอบเน้นๆ ว่า ไม่มีวัน “คุณคิดว่าผมจะยอมตกลงกับพวกนั้นเหรอ? ขอพระเจ้าเป็นพยานว่า ไม่มีวัน เพราะแม้แต่เส้นผมหรือเชื้อไวรัสในสโมสรผมก็จะไม่ขายให้เด็ดขาด”
เป็นวาทะที่โหดจัดและตรงกับสิ่งที่แฟนบอลปีศาจแดงต้องการโดยแท้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว โรนัลโด้ก็ออกไปทำตามความฝันกับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวสถิติโลกตอนฤดูร้อนปี 2009 อยู่ดี
ปาทริซ เอวร่า VS ลิลิยอง ตูราม
สมัยหนุ่มๆผมเนื้อหอม : 10 แข้งทีมดังแย่งกันแทบตาย…สุดท้ายไม่แจ้งเกิด
“การสวมแว่น ใส่หมวก ถือหนังสือเดินไปเดินมา ไม่ได้ช่วยให้คุณเป็นกูรูอะไรหรอกนะจะบอกให้”
ผลงานสุดอนาถของทีมชาติฝรั่งเศสในศึกฟุตบอลโลก 2010 เป็นเรื่องที่พูดถึงกันทั้งประเทศไม่เว้นแม้แต่นักการเมือง แน่นอนว่านักเตะรุ่นพี่ที่เคยนำทีม เลอ เบลอส์ สู่จุดสูงสุดอย่างตูรามเองก็เดือดเนื้อร้อนใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นรุ่นน้องทำผลงานสุดงามหน้า ออกมาสับแหลกพร้อมสาปส่งให้เอวร่าหลุดโผทีมตราไก่อย่างถาวรไปเลย
น่าแปลกที่เอวร่าผู้ปราดเปรื่องด้านการสรรหาคำมาแขวะ กลับเลือกโจมตีภาพลักษณ์ของตูรามออกสื่อซะอย่างนั้น ซึ่งมันก็ไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ แต่ก็อาจสะท้อนว่าอดีตกองหลังฝรั่งเศสชุดแชมป์โลก และแชมป์ยุโรปนี้ คือนักเตะที่ฉลาด และรอบคอบที่สุดคนหนึ่ง จนต้องแถไปโจมตีเรื่องอื่นก็เป็นได้
ดีเอโก้ มาราโดน่า VS เปเล่
null
“เปเล่น่าจะกลับไปถูกสตัฟฟ์อยู่ในพิพิธภัณฑ์เสียมากกว่า”
แม้วาทะเหยียดหยามของมาราโดน่าจะมีมากพอทำบทความนี้ได้ทั้งหมด (ลองกูเกิ้ลหาสงครามวาทะระหว่างเจ้าตัวกับสื่อช่วงปี 2010 ดูสิ) แต่การเปิดศึกกับคู่แข่งชิงตำแหน่งนักฟุตบอลอันดับ 1 ของโลกอย่าง เปเล่ คืออะไรที่พีคที่สุดแล้ว
ตัวอย่างก็เช่น เมื่อตอนที่ตำนานลูกหนังชาวบราซิลตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเครดิตการคุมทีมของคู่อริ เสือเตี้ยที่กำลังจะนำทีมชาติอาร์เจนติน่าสู้ศึกฟุตบอลโลก 2010 ก็ถึงกับหน้าเสียไปเลย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ รวมถึงการโต้เถียงถึงความยิ่งใหญ่ของโลกลูกหนังทำให้เราเชื่อได้ว่า การแลกเปลี่ยนวิวาทะของพวกเขาในทุกครั้งต้องมีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเอี่ยวแน่ๆ
การหยามสุดไส้อีกครั้งครั้งเกิดขึ้นในช่วงฟุตบอลโลก 2010 เมื่อจอมโวอย่างมาราโดน่ารำพึงถึงคู่ปรับตลอดกาลว่า “หมอนั่นต้องกินยาผิดสำแดงแน่ๆ เชื่อผมเถอะว่าตานั่นเบลอถึงขนาดเอายาที่ต้องกินก่อนนอนไปกินหลังอาหารเช้า ผมว่าเผลอๆ เขาอาจเปลี่ยนหมอที่รักษาทันทีที่กินยาตรงตามที่หมอสั่งได้เสียด้วยซ้ำ”
ดูบอลออนไลน์ฟรี
ดูบอลสดฟรี