ฟีฟ่าเปิด”การ์เซีย รีพอร์ท”ฉบับเต็ม-ผู้ดีรับเสนออุ่นเครื่องไทยซื้อโหวตบังยี

เมื่อช่วงคืนวันอังคารที่ผ่านมาสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ได้ปล่อยเอกสารการสืบสวนความไม่โปร่งใสในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2018 และ 2022 “การ์เซีย รีพอร์ท” ที่รัสเซียและกาตาร์ เป็นผู้ชนะโหวตและได้เป็นเจ้าภาพตามลำดับ ฟีฟ่าปล่อยข้อมูลเอกสารฉบับเต็ม 422 ให้ดาวน์โหลดผ่านทางเว็บไซต์ทางการ หลังจากข้อมูลที่หลุดออกไปถูกสื่้อเยอรมนีอย่างบิลด์ ตีพิมพ์ออกมาบางส่วน รายงานนี้เป็นของอดีต ไมเคิล การ์เซีย อดีตเจ้าหน้าที่ของฟีฟ่าที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าในการสอบสวน หลังจากถูกกล่าวหาเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในการคัดเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลก รายงานดังกล่าวนี้แล้วเสร็จเมื่อปี 2014 และถึงแม้การ์เซียจะทำการสอบสวนและสรุปออกมายาวเหยียดกว่าสี่ร้อยหน้า แต่ในตอนนั้นฟีฟ่าเลือกที่จะเปิดเผยข้อมูลที่ตัดรอนลงเหลือแค่ 42 หน้า เวอร์ชั่น 42 หน้าดังกล่าวนั้นเคลียร์ข้อกล่าวหาให้กับรัสเซียและกาตาร์ว่าไม่มีการคอร์รัปชั่นในการเสนอตัว และทำให้ไม่มีการโหวตเลือกเจ้าภาพใหม่ อย่างไรก็ตามมีการวิจารณ์การกระทำของสมาชิกฟีฟ่าบางคน รวมถึงชาติที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ซึ่งนั่นรวมถึงอังกฤษด้วย รายงานฉบับเต็มแสดงให้เห็นถึงข้อมูลลงลึกในเรื่องดังกล่าว หนึ่งในนั้นมีข้อมูลที่ว่าทีมชาติอังกฤษเตรียมแผนลงเล่นเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทยที่กรุงเทพมหานคร หากได้รับคะแนนโหวตจากสมาชิกฟีฟ่าชาวไทยอย่างนายวรวีร์ มะกูดี เจฟฟ์ ธอมป์สัน อดีตประธานสมาคมฟุตบอลอังกฤษและหัวหน้าทีมเสนอตัวของอังกฤษ ยอมรับในรายงานดังกล่าวว่าข้อเสนอในการจัดนัดกระชับมิตรดังกล่าวมีขึ้น 8 วันก่อนการประชุมโหวตหาเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 และ 2022 เมื่อปี 2010 จากนั้นข้อเสนอดังกล่าวถูกยกเลิกหลังจากเป็นที่ชัดเจนว่าสมาชิกฟีฟ่าจากประเทศไทยไม่ได้สนับสนุนการเสนอตัวของทีมชาติอังกฤษ เจฟฟ์ ธอมป์สัน ยอมรับกับทีมสอบสวนว่า “เรื่องดังกล่าวไม่เหมาะสม” เพราะ “คิดว่าเป็นรูปแบบของการติดสินบน” ในช่วงเวลาดังกล่าวยังมีข้อพิพาทของนายวรวีร์กับอดีตปธ.เอฟเออีกคนอย่างลอร์ด ทรีสแมน เกี่ยวกับกรณีที่ว่าอดีตประมุขลูกหนังไทยเรียกร้องค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในเกมอุ่นเครื่องนัดดังกล่าว(ที่สุดท้ายไม่เกิดขึ้น)อีกด้วย เหตุใดฟีฟ่าถึงเพิ่งจะปล่อยรายงานนี้ออกมาหลังผ่านไป 3 ปี? ฟีฟ่ายืนยันผ่านแถลงการณ์ว่าประธานอย่างจานนี่ อินฟานติโน่ มีความตั้งใจจะปล่อยรายงานฉบับเต็มอยู่แล้ว อดีตแต่หัวหน้าฝ่ายจริยธรรมคนก่อนปฏิเสธการเผยแพร่ ขอดีตเจ้าหน้าที่ทั้งสองคนดังกล่าวคือคอร์เนล บอร์เบลี่ และ ฮานส์ โยอาคิม เอ็คเกิร์ต ออกจากตำแหน่งหลังหมดวาระ 4 ปี เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เอ็คเกิร์ตให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปี 2014 ว่าการเผยแพร่เอกสารฉบับเต็มจะทำให้ตัวองค์กรอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ฟีฟ่ายืนยันว่าจริงๆแล้วจะมีการหารือเกี่ยวกับการเผยแพร่รายงานนี้ในเดือนหน้า แต่เนื่องด้วยข้อมูลหลุดไปอยู่ในมือของสื่อเยอรมนี หัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบจริยธรรมคนใหม่ของพวกเขาอย่างมาเรีย คลอเดีย โรฮาส ได้เสนอให้เปิดเผยทันที
เหตุใดถึงมีการสอบสวน?
การ์เซียถูกแต่งตั้งเป็นหัวหน้าฝ่ายสอบสวนเมื่อปี 2012 และให้เข้าดูแลเกี่ยวกับการคัดเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 และ 2022 หลังจากถูกกล่าวหาเรื่องการคอร์รัปชั่น หนึ่งในข้อกล่าวหาคือการที่อดีตเจ้าที่ฟุตบอลของกาตาร์อย่าง โมฮาเหม็ด บิน ฮัมมัม จ่ายเงินรวม 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับสมาชิกหลลายคนเพื่อให้กาตาร์ได้รับการโหวต กาตาร์นั้นได้ปฏิเสธการซื้อโหวตดังกล่าว และบอกว่าบิน ฮัมมัม ไม่ได้ทำในฐานะเจ้าหน้าที่ของกาตาร์ การ์เซียใช้เวลา 2 ปีในการสอบสวนเรื่องดังกล่าว รวมถึงตรวจสอบชาติที่เสนอตัวทั้ง 9 ทีม ซึ่งหนึ่งในนั้นคืออังกฤษ รัสเซียเอาชนะได้เป็นเจ้าภาพสำหรับปี 2018 เหนืออังกฤษ, ฮอลแลนด์/เบลเยี่ยม และ สเปน/โปรตุเกส ในเวลาเดียวกันกาตาร์ได้เป็นเจ้าภาพปี 2022 เหนือออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา
หลังจากตรวจสอบพบอะไร?
เมื่อปี 2014 ฟีฟ่าเผยแพร่รายงานของการ์เซียโดยย่นเหลือ 42 หน้า ซึ่งเคลียร์ชัดเจนว่ากาตาร์ไม่มีความผิด ทำให้จบความเป็นไปได้ในการโหวตเจ้าภาพปี 2022 ใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตามรายงานระบุว่ามีข้อบ่งชี้ที่เป็นปัญหาส่วนตัวของเจ้าหน้าที่บางราย ขณะที่การจ่ายเงินของบิน ฮัมมัม ถูกตัดสินว่าเกี่ยวกับเรื่องการเมืองส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวกับการเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 ขณะที่รัสเซียก็ไร้มลทินเช่นเดียวกัน แม้ว่าทีมสอบสวนจะได้รับข้อมูลที่จำกัดเนื่องจากคอมพิวเตอร์ของรัสเซียข้อมูลสูญหาย (ในช่วงการสอบสวนรัสเซียอ้างว่าคอมพิวเตอร์ที่พวกเขาใช้ในการทำธุรกรรมอีเมล์ต่างๆ นั้นเป็นการเช่าใช้ ก่อนที่จะถูกส่งคืน ก่อนที่อุปกรณ์ทั้งหมดน่าจะถูกแจกจ่ายให้โรงเรียนกีฬาเอาไปใช้ ขณะที่ความพยายามขอข้อมูลต่างๆกับ Google นั้นไม่ได้รับการตอบรับ) ส่วนทีมเสนอตัวของอังกฤษถูกกล่าวหาว่าทำไม่เหมาะสมในการพยายามจะล็อบบี้ผลโหวต เช่นเดียวกับออสเตรเลียที่ถูกวิจารณ์ รัสเซียกับกาตาร์น้อมรับรายงานดังกล่าว แต่อังกฤษนั้นคัดค้าน หลังจากรายงานฉบับ 42 หน้าถูกเผยแพร่เมื่อปี้ 2014การ์เซียลาออกจากตำแหน่งที่ฟีฟ่า ก่อนจะออกมาเรียกร้องให้รายงานฉบับเต็ม 422 หน้าเปิดเผย
คลิ๊กลิงค์ —>
คลิ๊กลิงค์ —> .