ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก (รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง)
วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม 2561
อาร์เซน่อล (อังกฤษ) 3 – 1 เอซี มิลาน (อิตาลี)
Arsenal (England) 3 – 1 AC Milan (Italy)
(รวมผลสองนัด อาร์เซน่อล เข้ารอบด้วยผลรวม 5-1 )
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
อาร์แซน เวนเกอร์ เทรนเนอร์ ”ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล พาทีมชนะเอซี มิลาน 2-0 ในนัดแรก นัดนี้ไม่ประมาทจัดทัพเต็มอัตราศึก
เมซุต โอซิล, แจ็ค วิลเชียร์ และ เฮนริค มคิทาร์ยาน เดินเกมรุกหนุนให้ แดนนี่ เวลเบ็ค ที่ยืนหน้าเป้าปิดสกอร์
ในรายของ เอคตอร์ เบเยริน (ข้อเท้า) และ อิ๊กนาซิโอ มอนเรอัล (หลัง) ที่พลาดมาตลอด 2 เกมหลัง หายกลับมาลงตัวจริงทั้งคู่
ขณะที่ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ เทรนเนอร์ “ปีศาจแดง-ดำ” เอซี มิลาน มีลุ้นพลิกสถานการ์ณเข้ารอบโดยต้องบุกมาชนะอย่างน้อย 2 ประตูขึ้นไป
นักแตะตัวหลักนำโดย เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, อเลสซิโอ โรมันโญลี่, ซูโซ่ และ ฮาคาน ชาลาโนลู
เริ่มเกมได้พียงนาทีเดียว อันเดร ซิลวา ดาวยิงมิลานได้โอกาสตะบันด้วยขวาในกรอบเขตโทษอาร์เซน่อลโล่งๆ แต่ทิศทางไม่ดีเข้าข้างตาข่ายไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 5 อาร์เซน่อล ได้ลุ้นบ้างจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เฮนริค มคิทาร์ยาน เปิดบอลไปเข้าหัว โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ที่เติมขึ้นมาโขกแต่บอลโด่งข้ามคานออกไป
จากจังหวะแย่งโหม่งทำให้ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ มีอาการบาดเจ็บที่หลังและต้องเปลี่ยนตัวเพียงแค่นาทีที่ 10 เท่านั้น โดยส่ง คาลั่ม แชมเบอร์ส ลงเล่นแทน
ผ่านมาถึงนาทีที่ 25 เจ้าถิ่นหวิดได้ประตูนำก่อนจากจังหวะโต้กลับไวบอลเลยไปถึง แดนนี่ เวลเบ็ค เลี้ยงจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษมิลานก่อนสับหลอกเข้าเท้าซ้ายแล้วซัดเต็มข้อแต่ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ป้องกันไว้ได้
และมิลาน ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 นาทีที่ 35 จากจังหวะ ริคาร์โด้ โรดริเกซ ไหลบอลให้ ฮาคาน ชัลฮาโนลู ซัดไกลด้วยเท้าขวาเต็มข้อบอลพุ่งเสียบมุมเสาไกลสุดสวย
สองนาทีต่อมา อาร์เซน่อล ตีเสมอเป็น 1-1 จากจุดโทษเจ้าปัญหา โยนาส เอริคส์สัน ผู้ตัดสินจากสวีเดนมองว่า แดนนี่ เวลเบ็ค ถูก ริคาร์โด้ โรดริเกซ ใช้ท่อนแขนกระแทกจากด้านหลังล้มลง และเป็น เวลเบ็ค ที่รับหน้าที่สังหารไม่เหลือ
นาทีที่ 45+1 แจ็ค วิลเชียร์ ได้โอกาสซัดระยะประมาณ 18 หลากลางกรอบเขตโทษบอลทำท่าจะมุมเสียบโคนเสาแต่ถูก จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ปฏิเสธสกอร์พุ่งปัดปลายมือไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ
จบครึ่งเวลาแรก อาร์เซน่อล ไล่เสมอ เอซี มิลาน 1-1 รวมผลสองนัดเป็นทัพปืนโตนำอยู่ 3-1
เริ่มครึ่งหลัง นาทีที่ 49 ปืนใหญ่ ได้ลุ้นขึ้นนำ เมซุต โอซิล ทำชิ่งให้ เอคตอร์ เบเยริน หลุดไปเส้นหลังก่อนตวัดบอลย้อนมาให้ อารอน แรมซี่ย์ ยิงเน้นๆ แต่หลุดออกข้างไปอย่างน่าผิดหวัง
สี่นาทีถัดมา ซูโซ่ ได้ตั้งป้อมซัดด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดกลางกรอบเขตโทษเจ้าบ้านบอลโค้งหลุดออกเสาไกลไปไม่ถึงฟุต
นาทีที่ 56 เมซุต โอซิล หลอกแผงหลัง มิลาน หนึ่งจังหวะก่อนไหลบอลใส่พานให้ อารอน แรมซี่ย์ วิ่งเข้ามาแปเน้นๆ 18 หลาแต่โดนไม่ดีบอลลอยโด่งข้ามคาน
มิลาน ที่เปิดเกมบุกอย่างต่อเนื่องได้ลุ้นอีกครั้ง นาทีที่ 67 เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ เปิดบอลโด่งทางฝั่งขวาเป็น นิโกล่า คาลินิช ขึ้นโหม่งโล่งๆ แต่บอลไปตรงตัว ดาวิด ออสปีน่า รับเข้าซอง
และเป็น อาร์เซน่อล แซงขึ้นนำ 2-1 จนได้นาทีที่ กรานิต ชาคา ซัดไกลด้วยซ้ายเต็มข้อระยะประมาณ 18 หลาบอลกระดอนลงพื้นก่อนถึง จานลุยจิ ดอนนารุมม่า นายด่านมิลานที่พยายามพุ่งปัดแต่จังหวะไม่เป็นใจบอลปลิ้นหมุนเข้าประตูไปแบบโชคช่วย
นาทีที่ 75 อันเดร ซิลวา หวิดบวกสกอร์ให้มิลานจากลูกโหม่งเต็มหัวแต่ถูกปฏิเสธโดย ดาวิด ออสปิน่า ที่ลอยตัวปัดบอลออกไปได้อย่างฉิวเฉียด
ทัพปืนใหญ่มาได้ประตูตอกย้ำชัยห่าง 3-1 นาทีที่ 86 แจ็ค วิลเชียร์ เปิดบอลริมเส้นฝั่งซ้าย อารอน แรมซี่ย์ โหม่งจ่อๆ ติดเซฟของ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า จังหวะแรกก่อนบอลลอยไปเข้าทาง แดนนี่ เวลเบ็ค โขกซ้ำดาบสองไม่เหลือและเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้อีกด้วย
จบเกม อาร์เซน่อล เปิดบ้านยิงแซงย้ำชัยเหนือ เอซี มิลาน 3-1 รวมผลสองนัดเป็นอาร์เซน่อลผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยผลรวม 5-1
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : ดาวิด ออสปิน่า – เอคตอร์ เบเยริน, ชโคดราน มุสตาฟี่, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ (คาลั่ม แชมเบอร์ส น.10), อิ๊กนาซิโอ มอนเรอัล – อารอน แรมซี่ย์, กรานิต ชาคา – เมซุต โอซิล (เซอัด โคลาซินัช น.79), แจ็ค วิลเชียร์, เฮนริค มคิทาร์ยาน (โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ น.69) – แดนนี่ เวลเบ็ค
สำรองไม่ได้ใช้ : ปีเตอร์ เช็ก, อเล็กซ์ อิโวบี้, ไอน์สลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส, เอ็ดเวิร์ด เอ็นเคเทียห์
เทรนเนอร์ : อาร์แซน เวนเกอร์
เอซี มิลาน (4-4-2) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า – ฟาบิโอ บอรินี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, อเลสซิโอ โรมันโญลี่, ริคาร์โด้ โรดริเกซ – ซูโซ่, ฟร้องค์ เคสซิเย่ (มานูเอล โลคาเตลลี่ น.79), ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่, ฮาคาน ชัลฮาโนลู (จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า 70) – พาทริค คูโตรเน่ (นิโกล่า คาลินิช น.63), อันเดร ซิลวา
สำรองไม่ได้ใช้ : คริสเตียน ซาปาต้า, มาเตโอ มูซัคคิโอ, มาร์โก สโตรารี่
เทรนเนอร์ : เจนนาโร่ กัตตูโซ่
ผู้ตัดสิน : โยนาส เอริคส์สัน (สวีเดน)