ฟุตบอล ยูโรปาลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง
วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม 2561
ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) 0-2 ลาซิโอ (อิตาลี)
Dinamo Kiev (Ukraine) 0-2 Lazio (Italy)
(รวมผลสองนัดลาซิโอชนะ 4-2)
สนาม : เอ็นเอสเค โอลิมปิสกี้
ดินาโม เคียฟ ที่ออกไปยันเสมอ 2-2 ในนัดแรก วาง จูเนียร์ โมราเอส เป็นทีเด็ดในแผงรุก หน้าเป้าจัด อาร์เต็ม เบสเยดิน ฝั่ง ลาซิโอ เลือก เฟลิเป้ อันแดร์ซอน ยืนกองหน้าคู่กับ ชิโร่ อิมโมบิเล่ แดนกลางนำโดย หลุยส์ อัลเบร์โต้
ผ่านไป 16 นาที ”อินทรีฟ้า-ขาว” น่าได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะแทงเข้าเขตโทษฝั่งขวา ชิโร่ อิมโมบิเล่ สปีดตามไปเก็บก่อนแตะหนี เดนีส บอยโก้ แล้วยิงมุมแคบแต่โดน ทามาส คาดาร์ สไลด์ตัวบล็อกทันเวลา
7 นาทีถัดมา ลาซิโอ ขึ้นนำจนได้จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวา หลุยส์ อัลเบร์โต้ เปิดไปหน้าประตู ลูคัส เลวา เทกตัวโหม่งตัดหน้า เดนิส บอยโก้ จากระยะ 5 หลาเข้าไปเป็นประตู 1-0
นาที 29 เจ้าบ้านลุ้นตีเสมอจากจังหวะยิงหน้าเขตโทษของ วิคตอร์ ซีกานคอฟ เหินข้ามคานไปไม่ไกล
ครึ่งชั่วโมงแรกผ่านไป 8 นาที ทีมเยือนเกือบได้เพิ่ม เฟลิเป้ อันแดร์ซอน แทงขึ้นหน้าให้ ชิโร่ อิมโมบิเล่ หลุดเข้าไปยิงติดเซฟ เดนีส บอยโก้ จบ 45 นาทีแรก ลาซิโอ บุกนำ 1-0
กลับมาต่อครึ่งหลัง 4 นาที ดินาโม เคียฟ ลุ้นประตูจากจังหวะเตะมุมบ้าง วิคตอร์ ซิกานคอฟ เปิดไปให้ อาร์เต็ม เบสเยดิน เทกตัวโหม่งเต็มศีรษะหลุดกรอบออกไป
นาที 51 ลาซิโอ น่าได้เพิ่มหลังลูกยิงของ ชิโร อิมโมบิเล่ ติดบล็อกกระเด้งมาเข้าทางปืน ปาตริก ได้ซ้ำระยะ 6 หลาเหินข้ามคานเหลือเชื่อ
ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ทีมเยือนได้ลูกเตะมุม หลุยส์ อัลเบร์โต้ เปิดไปที่เสาแรก มาร์โก ปาโรโล่ โฉบเข้าไปยิงข้ามคานไม่ไกล แต่แล้วทีมเยือนมาได้ประตูตอกฝาโลง จากจังหวะลูกเตะมุมและเป็น เดอ ฟราย ขึ้นมาแปะบอลโล่ง ๆ หน้าประตูหลังเพื่อนร่วมโหม่งเช็ดมาให้ จบเกม ลาซิโอ บุกอัด ดินาโม เคียฟ 2-0 เป็นฝ่ายตีตั๋วสู่รอบต่อไปด้วยประตูรวม 2 นัด 4-2
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ดินาโม เคียฟ : เดนีส บอยโก้, โทมัสซ์ เคดซิโอร่า, มายคีต้า เบอร์ด้า, ทามาส คาดาร์, โยซิป พิวาริช, วิตาลี่ บูยัลสกี้, โวโลดิเมียร์ เชเปลิเยฟ, มายโคล่า โมโรซยุค, จูเนียร์ โมราเอส, วิคตอร์ ซีกานคอฟ, อาร์เต็ม เบสเยดิน
ลาซิโอ : โธมัส สตราโคช่า, หลุยส์ เฟลิเป้, สเตฟาน เดอ ฟราย, สเตฟาน ราดู, ปาตริก, มาร์โก ปาโรโล่, ลูคัส เลว่า, หลุยส์ อัลเบร์โต้, เซนาด ลูลิช, เฟลิเป้ อันแดร์ซอน, ชิโร่ อิมโมบิเล่
ผู้ตัดสิน : เฆซุส กิล มันซาโน่ (สเปน)