เลาะตะเข็บเก็บละเอียด : เรื่องที่คุณอาจพลาดไปในพรีเมียร์ลีกคืนวันเสาร์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับสู่ตำแหน่งจ่าฝูง แต่ ลิเวอร์พูล กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ถึงคราวสะดุดอีกครั้ง
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0-0 สวอนซี
เฟร์นานโด ยอเรนเต้ (32 ปี 201 วัน) เป็นนักเตะที่ไม่ใช่ผู้รักษาประตูอายุมากสุดที่ได้ลงเล่นพรีเมียร์ลีกให้สเปอร์สในยุคของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่
ผลเสมอกับ สวอนซี ทำให้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยังไม่ชนะเกมพรีเมียร์ลีกที่สนามเวมบลีย์ต่อไป
สเปอร์สไม่สามารถเจาะตาข่ายสวอนซีที่ตั้งรับลึกได้ แถมทีมเยือนยังมีโอกาสสวนกลับเป็นระยะ โดยมี แทมมี่ อับราฮัม ตัวยืมจาก เชลซี เป็นกำลังสำคัญ
โอกาสใกล้เคียงที่สุดของทีมไก่เดือยทองมาจากจังหวะที่ ซน เฮือง มิน ยิงติดเซฟ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ก่อนที่ แฮร์รี่ เคน จะซ้ำชนคานอย่างจัง เกมนี้ลูกทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มีโอกาสยิงถึง 26 ครั้ง แต่ทีมหงส์ขาวก็ยันอยู่จนคว้า 1 คะแนนสำคัญได้สำเร็จ
คริสตัล พาเลซ 0-1 เซาธ์แฮมป์ตัน
ประตูล่าสุดของ สตีเว่น เดวิส ในพรีเมียร์ลีกก่อนที่จะยิงได้ในเกมนี้เกิดขึ้นเมื่อ 489 วันก่อน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2016 ซึ่งเหยื่อผู้โชคร้ายก็คือ คริสตัล พาเลซ นั่นเอง
คริสตัล พาเลซ กลายเป็นทีมแรกของลีกสูงสุดอังกฤษที่แพ้รวด 5 นัดแรกแบบยิงประตูไม่ได้เลย ถือเป็นอีกวันที่น่าผิดหวังของทีมจากลอนดอนใต้ ซึ่ง รอย ฮ็อดจ์สัน นายใหญ่คนใหม่มิอาจพลิกโฉมทีมได้ในนัดแรกของการคุมทีม
ทีมนักบุญได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกมจาก สตีเว่น เดวิส ซึ่งตามซ้ำจากจังหวะที่ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ ปัดลูกยิงของ ดูซาน ทาดิช มาเข้าทางพอดี พาเลซมีโอกาสตีเสมอจาก คริสติยอง เบนเตเก้ และ เจสัน พันเชี่ยน ที่ต่างก็ได้ยิงจากจังหวะเผาขน แต่ลูกทีมของ เมาริซิโอ เปเยกริโน่ ยันไว้อยู่จนคว้าชัยนัดที่ 2 ของฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ
เมื่อรวมกับโปรแกรมหน้าที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ถูมือรออยู่อีกไม่ไกล ดูแล้วพาเลซคงได้จมในโซนตกชั้นไปอีกพักใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย
ฮัดเดอร์สฟิลด์ 1-1 เลสเตอร์
เจมี่ วาร์ดี้ มีส่วนร่วมถึง 15 ประตู จากเกมพรีเมียร์ลีก 18 นัดในยุคของ เคร็ก เชกสเปียร์ (12 ประตู, 3 แอสซิสต์)
เจมี่ วาร์ดี้ สังหารจุดโทษ 2 เกมติด ช่วยให้ เลสเตอร์ คว้าแต้มออกมาจากบ้านของ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ได้
โลรองต์ เดอปัวตร์ ของเจ้าถิ่นยิงได้ในการออกสตาร์ทตัวจริงในเกมพรีเมียร์ลีกเป็นนัดแรก หลังเริ่มครึ่งหลังได้เพียง 40 วินาที แต่วาร์ดี้ตีเสมอให้ทีมเยือนได้ในอีก 4 นาทีต่อมา หลัง แอนดี้ คิง ถูกรวบล้มในกรอบเขตโทษ ทั้งสองฝ่ายต่างมีโอกาสยิงประตูชัยแต่พลาดไปหมด ขณะที่ เอเลียส คาชุงก้า ของ เดอะ เทอร์เรียร์ส ถูกปฏิเสธประตูแรกในฤดูกาลนี้จากจังหวะล้ำหน้า
ผลเสมอยังดีพอที่ทำให้เลสเตอร์อยู่เหนือโซนตกชั้น หลัง เวสต์แฮม ไม่สามารถเอาชนะ เวสต์บรอมวิช ได้ ขณะที่ฮัดเดอร์สฟิลด์รั้งอันดับ 6 ของตาราง
นิวคาสเซิล 2-1 สโต๊ก
6 ประตูหลังสุดในพรีเมียร์ลีกของ เซอร์ดาน ชากิรี่ เกิดขึ้นจากนอกกรอบเขตโทษทั้งหมด
ประตูจาก คริสเตียน อัตซู และ จามาล ลาสเซลล์ส ซึ่งตัดสินเกมที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค ทำให้ นิวคาสเซิลบินสูงสู่อันดับ 4 ของตารางจากชัยชนะ 3 นัดติด
อัตซู อดีตปีกเชลซี ซัดประตูจากลูกเปิดของ แม็ตต์ ริชชี่ ให้ทีมสาลิกาดงขึ้นนำตั้งแต่ 19 นาทีแรก แต่ เซอร์ดาน ชากิรี่ ส่องจากระยะ 25 หลา ตีเสมอให้ สโต๊ก ก่อนครบ 1 ชั่วโมงของเกม แต่ลูกโหม่งของลาสเซลล์สจากการเปิดของริชชี่ (อีกแล้ว) ก็ทำให้ทีมสาลิกาดงเก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ กัปตันทีมนิวคาสเซิลโหม่งประตูชัยได้เป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน หลังฝัง สวอนซี ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
ราฟาเอล เบนิเตซ เคยฟาดงวงฟาดงาตลอดช่วงซัมเมอร์ แต่ตอนนี้น่าจะมีความสุขล้นปรี่กับฟอร์มของลูกทีมช่วงนี้ ขณะที่สโต๊กจบสถิติไร้พ่าย 4 นัดในทุกรายการเรียบร้อย
ลิเวอร์พูล 1-1 เบิร์นลี่ย์
ลิเวอร์พูลกลายเป็นทีมที่ 4 ซึ่งเก็บได้ 1,000 คะแนนในเกมพรีเมียร์ลีกที่บ้านของตัวเอง
ลิเวอร์พูล ฟอร์มสะดุดที่แอนฟิลด์ 2 นัดติดรวมทุกรายการ ขณะที่ เบิร์นลี่ย์ ยืดสถิติไม่แพ้นอกบ้านเป็น 3 นัดเข้าให้แล้ว
ไม่มีใครคาดหวังเซอร์ไพรซ์จาก เดอะ คลาเร็ตส์ มากนักในเกมวันเสาร์ แม้พวกเขาเพิ่งบุกโค่น เชลซี แชมป์เก่าถึง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในเกมเปิดสนาม ก่อนยันเสมอสเปอร์สถึงเวมบลีย์ แต่ลูกทีมของ ฌอน ไดซ์ ทำให้กองเชียร์ทีมหงส์แดงเฮไม่เต็มเสียงในบ้านของตัวเองอีกครั้ง
สก็อตต์ อาร์ฟิลด์ ฉกฉวยความผิดพลาดจากกองหลังเจ้าถิ่นยิงประตูขึ้นนำตั้งแต่ 27 นาทีแรก แต่ดีใจได้ไม่นาน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็รับลูกเปิดยาวของ เอ็มเร่ ชาน ซัดผ่าน นิค โป๊ป ผู้รักษาประตูสำรองทีมเยือนตีเสมอ
ลิเวอร์พูลบุกแหลกตลอดช่วงเวลาที่เหลือ แต่โป๊ปและแผงหลังซึ่งเมื่อคืนโชว์ฟอร์มดีเหลือเกินก็ยันไว้อยู่ กลายเป็นผลงานนอกบ้านที่สุดยอดอีกนัด
วัตฟอร์ด 0-6 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ยิงประตูในเกมเยือนพรีเมียร์ลีก 8 นัดติดต่อกัน มีเพียง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (9) เท่านั้นที่ทำได้ดีกว่า
เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ซัดแฮททริก นำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยำใหญ่ วัตฟอร์ด ถึง วิคาเรจ โร้ด
ศูนย์หน้าทีมชาติอาร์เจนติน่ายิง 2 ประตูในเวลาห่างกัน 4 นาทีให้ทีมเยือนนำ 2-0 ตั้งแต่ 31 นาทีแรก ก่อนที่ กาเบรียล เชซุส คู่หัวหอกจะบวกประตูที่ 3 ของเกมช่วงท้ายครึ่งแรก นิโกลัส โอตาเมนดี้ โหม่งลูกเปิดจากกราบซ้ายของ ดาบิด ซิลบา ให้ทีมนำห่างในนาที 63 ก่อนที่กุนจะซัดลูกที่ 3 ของตัวเอง และ ราฮีม สเตอร์ล่ง ยิงจุดโทษปิดท้าย
ซิตี้โชว์ผลงานเกมบุกสุดเร้าใจ ขณะที่ลูกทีมของ มาร์โก ซิลวา ไม่อาจรับมือกับรูปเกมที่รวดเร็วปานสายฟ้าแลบของทีมเยือนได้ และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า น่าจะยินดีกับการไม่เสียประตูอีกนัด หลังปล่อยให้ วัตฟอร์ด ได้ยิงเข้ากรอบเพียงนัดเดียวจากเกมเมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์
ความพ่ายแพ้ยับเยินของทีมแตนอาละวาด ซึ่งถือเป็นนัดแรกของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ด้วยนั้น คงทำให้พวกเขานึกถึงตอนที่โดนทีมเรือใบสีฟ้ายำใหญ่ 5-0 ในเกมสุดท้ายของฤดูกาลก่อนเป็นแน่แท้

คลิ๊กลิงค์ —>
คลิ๊กลิงค์ —> .