ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก
วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม 2561
คริสตัล พาเลซ 2 – 3 แมนฯ ยูไนเต็ด
Crystal Palace 2 – 3 Manchester United
สนาม : เซลเฮิร์สท์ พาร์ค
โดยเกมนี้ เจ้าถิ่นของ รอย ฮ็อดจ์สัน สภาพทีมเจ็บบานเบอะ แนวรุกวาง คริสติย็อง เบนเตเก้ ล่าตาข่ายคู่กับ อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ ดาวยิงชาวนอร์เวย์ ส่วนทางด้าน มูรินโญ่ ผู้มาเยือนจัดสามประสานแนวรุก อเล็กซิส ซานเชซ, โรเมลู ลูกากู และเจสซี่ ลินการ์ด โดยมี ปอล ป็อกบา ขับเคลื่อนแดนกลางร่วมกับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์
กระนั้นเจ้าถิ่นที่เล่นด้วยความกระหาย ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน ในนาที 11 จากจังหวะขึ้นเกมด้านซ้าย เบนเตเก้ จ่ายเข้ากลางให้ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งไปโดน ลินเดอเลิฟ เปลี่ยนทางเสียบมุมเข้าไป พาเลซ ขึ้นนำ แมนฯยูฯ ไปก่อน 1-0
แนวรับ “ปีศาจแดง” เอาไม่อยู่อีก คราวนี้เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง นาที 17 อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ ดาวรุ่งนอร์เวย์เบียดเอาชนะ แอชลี่ย์ ยัง ก่อนลากบอลเข้าไปซัดเลียด แต่ดีที่ไปตรงตัว เด เคอา รับไว้ได้
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เจ้าถิ่นทำได้ยอดเยี่ยมบีบแดนกลาง และเพรสซิ่งเร็วทำเอา “ปีศาจแดง” ถึงกับไปไม่เป็น ทำให้ต้องเน้นเปิดบอลทางด้านข้างเป็นส่วนใหญ่ เข้าสู่ห้านาทีท้ายครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ด ได้ลุ้นบ้าง นาที 41 ลินการ์ด สับไกนอกกรอบบอลเฉียดเสาแรกออกไป จบครึ่งแรก คริสตัล พาเลซ ขึ้นนำ แมนฯยูไนเต็ด 1-0รึ่งหลัง มูรินโญ่ แก้แท็คติกส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงไปเล่นแทน สกอตต์ แม็คโทมิเนย์
แต่แล้วแค่นาที 48 แฟนๆดิ อีเกิ้ลส์ ได้เฮลั่นกันอีกหน เมื่อ ชลุปป์ เล่นฟรีคิกเร็วกลางสนามแทงบอลทะลุให้ พาทริค ฟาน อานโฮลท์ หลุดเข้าไปซัดผ่านมือ เด เอคา เสาแรกเข้าไป ให้ พาเลซ นำห่างเป็น 2-0
นาที 55 แมนฯยูไนเต็ด ได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จนได้ วาเลนเซีย เปิดบอลเข้าไปในกรอบ คริส สมอลลิ่ง หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปโขกเหน่งๆย้อนตัว เฮนเนสซี่ย์ เข้าไป
นาที 67 วาเลนเซีย ไหลเข้ากลางให้ ป็อกบา ได้วิ่งมาซัดเต็มใบบอลพุ่งจะเสียบตาข่ายอยู่แล้วแต่ เฮนเนสซี่ย์ ยังพุ่งปัดออกไปได้เหลือเชื่อ
จากนั้นไม่ถึงนาที มูรินโญ่ เปลี่ยนสองคนสุดท้ายทีเดียวรวด ส่ง มาต้า ลงไปเล่นแทน วาเลนเซีย และส่ง ลุค ชอว์ ลงไปแล่นแทน แอชลี่ย์ ยัง
“ปีศาจแดง” ยังโหมกดดันอย่างหนัก จนนาที 76 มาไล่ตีเสมอ 2-2 จนได้ จากจังหวะที่ อเล็กซิส ซัดบอลไปแฉลบแนวรับตกบนคาน บอลมาเข้าทาง ลูกากู เก็บบอลได้ก่อนซัดทะลวงแนวบล็อกเจ้าถิ่นพุ่งเข้าตาข่ายไป ชนิดที่ เฮนเนสซี่ย์ ได้แต่ชายตามอง
ถัดมาแค่นาทีเดียว เจ้าถิ่นหวิดพลิกขึ้นนำอีกรอบ คราวนี้ เบนเตเก้ โขกบอลตกพื้นเต็มแรงบอลจะกระดอนเข้าอยู่แล้วแต่ เด เคอา ยังโชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกหลังไปได้
ลูกทีมมูรินโญ่ยังโหมบุกต่อเนื่อง คราวนี้ นาที 88 มาต้า หลุดเข้าไปซัดมุมแคบแต่ดีที่ เฮนเนสซี่ย์ ปิดมุมเซฟไว้ได้
เกมทำท่าว่าจะจบด้วยการแบ่งแต้ม ทว่าในช่วงทดเจ็บ นาที 90+2 เนมานย่า มาติช ซัดไกลนอกกรอบบอลพุ่งเสียบมุมเข้าไปอย่างหมดจด เป็นประตูชัยให้ “ปีศาจแดง” ฟื้นจากหลุมกลับมาคว้าสามแต้มเหนือ พาเลซ สุดมันส์ 3-2 แซง “หงส์แดง” ขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงจนได้
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
คริสตัล พาเลซ (4-4-2) : เวย์น เฮนเนสซี่ย์ – อารอน วาน-บิสซาก้า, มาร์ติน เคลลี่, เจมส์ ทอมกิ้นส์, พาทริค ฟาน อานโฮลท์ – แอนดรอส ทาวน์เซนด์, เจมส์ แม็คอาเธอร์, ลูก้า มิลิโวเยวิช, เจฟฟรีย์ ชลุปป์ – คริสติย็อง เบนเตเก้, อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-3-3) : ดาบิด เด เคอา – อันโตนิโอ วาเลนเซีย, คริส สมอลลิ่ง, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, แอชลี่ย์ ยัง – สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เนมานย่า มาติช, ปอล ป็อกบา – อเล็กซิส ซานเชซ, โรเมลู ลูกากู, เจสซี่ ลินการ์ด
ผู้ตัดสิน : นีล สวอร์บริค