สมาคมฟุตบอลอังกฤษหรือเอฟเอได้อนุมัติข้อเสนอให้มีการลงโทษย้อนหลังต่อนักเตะที่ตบตาผู้ตัดสินจากการพุ่งล้มหรือแกล้งเจ็บเริ่มตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป โดยจะถูกแบน 2 นัดหากโดนตัดสินว่ามีความผิดจริง
ความคิดดังกล่าวซึ่งได้มีการใช้ในฟุตบอลสก็อตแลนด์ไปแล้วนั้น ถือเป็นหนึ่งในวาระของการประชุมสามัญประจำปีของเอฟเอที่จัดขึ้นในเวมบลีย์วันนี้(พฤหัสบดี)
สำหรับการลงโทษนั้นจะเริ่มต้นด้วยการให้คณะกรรมการสามคนมาย้อนดูภาพช้าจากเกมสุดสัปดาห์ทุกวันจันทร์ และหากนักเตะคนไหนโดนตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์ว่าตบตาผู้ตัดสิน ก็จะโดนลงโทษ
สำหรับนักเตะที่โดนตัดสินว่ามีความผิด ก็จะต้องโดนลงโทษแบนเป็นจำนวน 2 นัดด้วยกัน
สมาคมฟุตบอลของสก็อตแลนด์เคยนำเสนอกฏข้อนี้มาแล้วตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งจะทำให้คณะกรรมการด้านระเบียบวินัยลงโทษแบน 2 นัดกับนักเตะที่ตบตาแล้วผู้ตัดสินพลาด หรือยกเลิกใบเหลืองสำหรับนักเตะที่ถูกตัดสินแบบไม่ถูกต้องในเรื่องดังกล่าว
เจมี่ วอล์คเกอร์ปีกของฮาร์ทส์เคยได้รับการตัดสินทั้งสองแบบมาแล้วในฤดูกาลนี้ โดยเขาโดนแบนไป 2 นัดจากที่พุ่งเอาจุดโทษในนัดเจอเซลติกเมื่อเดือนสิงหาคม จากนั้นก็ได้รับการยกเลิกบทลงโทษย้อนหลังจากที่โดนข้อหาตบตาระหว่างเกมเจอเรนเจอร์สเมื่อเดือนธันวาคม
เรื่องของการตบตาผู้ตัดสินเป็นปัญหาในเกมฟุตบอลมายาวนานและในฤดูกาลนี้ก็มีหลายเคสที่เป็นประเด็นกัน อย่างการพุ่งที่เป็นจุดโทษของโรเบิร์ต สน็อดกราสให้ฮัลล์ ซิตี้ในนัดเจอคริสตัล พาเลซรวมถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่นานของมาร์คัส แรชฟอร์ดกับแฮร์รี่ เคน
แถลงการณ์ของเอฟเอระบุว่า “ถึงแม้ความพยายามหลอกลวงผู้ตัดสินด้วยการแกล้งเจ็บหรือแกล้งว่าโดนทำฟาวล์จะเป็นความผิดที่ตักเตือนด้วยข้อหาไม่มีน้ำใจนักกีฬาได้ ยังมีข้อเท็จจริงว่าการตบตาประสบความสำเร็จในการหลอกผู้ตัดสินและนำไปสู่จุดโทษหรือการไล่ออก ฉะนั้นแล้วการมีบทลงโทษที่รุนแรงยิ่งขึ้นก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยยับยั้ง”
“กระบวนการนี้จะคล้ายกับที่ใช้ตัดสินความผิดอันเป็นใบแดง(ประพฤติตัวรุนแรง/ฟาวล์รุนแรง/การถ่มน้ำลายใส่คู่แข่ง) ซึ่งผู้ตัดสินไม่เห็นแต่ถูกภาพช้าจับได้”
“ในสถานการณ์นี้อดีตผู้ตัดสิน 3 รายจะทำการย้อนดูภาพวีดีโอทั้งหมดด้วยตัวเองในแต่ละจังหวะและแจ้งให้เอฟเอทราบว่าเป็นจังหวะที่พวกเขาเชื่อว่าสมควรแก่การโดนไล่ออกทันทีหรือไม่”
คลิ๊กลิงค์ —>
คลิ๊กลิงค์ —> .