ศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมามีโปรแกรมลงเตะกันถึง 5 คู่ ทว่าไม่มีอันดับท็อปหกลงเล่นเลยแม้แต่ทีมเดียว ปรากฎว่ามีประตูเกิดขึ้นเพียง 4 ลูกเท่านั้น แถมไม่มีทีมเจ้าถิ่นยิงได้เลย เกิดเป็นสถิติใหม่อันย่ำแย่ของลีกขึ้นมาทันที
เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เปิดเซนต์ แมรีส์ เสมอกับฮัลล์ ซิตี้ 0-0 แต่ต้องโทษดูซาน ทาดิช ที่ดันซัดโทษไปติดเซฟของเอลดิน ยาคูโปวิช ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง
ถัดมาเป็นเกมที่เบ็ต 365 สเตเดี้ยม สโต้ค ซิตี้ เจ๊าไร้สกอร์กับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทั้งที่มีโอกาสยิงตรงกรอบทีมละ 5 และ 4 ครั้งตามลำดับ
เกมแรกที่มีสกอร์เกิดขึ้นคือเลสเตอร์ ซิตี้ ที่บุกไปเอาชนะเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-0 จากการยิงของเจมี่ วาร์ดี้ นาทีที่ 43
ก่อนที่โจชัว คิง จะยิงให้บอร์นมัธ บุกชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 ในนาทีที่ 88 พร้อมกับถีบทีมของเดวิด มอยส์ ตกชั้น
คู่สุดท้ายคู่เดียวของวันเป็นเกมที่เซลเฮิร์สท์ ปาร์ค ทว่าเจ้าถิ่นโดนทีมเยือนอย่างเบิร์นลีย์ บุกชนะ 2-0 จากผลงานของแอชลีย์ บาร์นส์ และ อันเดร เกรย์ แถมยังเป็นการเก็บชัยนอกบ้านครั้งแรกในฤดูกาลนี้ของพวกเขาอีกด้วย
สรุปว่าทั้ง 5 คู่ เจ้าถิ่นไม่สามารถทำประตูได้เลย นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ทีมเจ้าบ้านไม่สามารถยิงประตูได้(วันที่มีโปรแกรมแข่งอย่างน้อย 4 คู่ขึ้นไป) แถมทุกคู่ยิงรวมกันเพียง 4 ลูกเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นหากย้อนไปตั้งแต่เกมเมื่อวันพุธที่ผ่านมาพรีเมียร์ลีกมีเตะรวม 9 คู่ แต่มีประตูเกิดขึ้นเพียง 7 ลูก ที่น่าผิดหวังคือเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่เสมอกัยด้วยสกอร์ 0-0 ซึ่งทั้งหมดคิดเป็นการยิง 0.77 ประตูต่อหนึ่งนัดเท่านั้น
อย่างไรก็ตามความหวังของแฟนบอลยังมีให้ลุ้นในวันอาทิตย์และวันจันทร์นี้ ที่บรรดาทีมใหญ่จะลงสนามกันทุกทีม
คลิ๊กลิงค์ —>
คลิ๊กลิงค์ —> .