ฮีโร่โก้ไม่สุด : 11 แข้งขวัญใจแฟนที่กลับรังเก่าด้วยฟอร์มที่ไม่น่ารักสักเท่าไหร่

การออกไปการแข่งขันในระดับที่สูงกว่า, เปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ๆ และได้ผจญภัยในแบบของตัวเอง คือ สิ่งที่นักเตะหลายคนอยากจะเจอ ทว่าหลายครั้งโลกใหม่ที่รออยู่กลับไม่สวยงามและเป็นไปอย่างใจหวัง จนต้องซมซานกลับสโมสรเก่าที่เคยปลุกปั้นพวกเขามา…แต่เมื่อเวลาผ่านไป อะไรก็ไม่เหมือนเดิม
โจ โคล (เวสต์แฮม)
เด็กอัจฉริยะของวงการฟุตบอลอังกฤษอย่าง โจ โคล เติบโตมากับระบบเยาวชนของ เวสต์เเฮม เขาเจิดจรัสสุดๆนับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของทีมขุนค้อนตั้งแต่ปี 1998
แม้ตลอด 5 ปีกับ เวสต์แฮม โคล จะไม่ได้มีโทรฟี่อะไรติดไม้ติดมือเลย แต่สิ่งที่เขาได้รับคือการยกย่องในฐานะผู้กุมอนาคตทีมชาติอังกฤษ พร้อมทั้งติดธงสิงโตคำรามชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2001 รวมถึงไปเล่นฟุตบอลโลกที่ ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ในปี 2002 อีกด้วย
โคลย้าย ออกจาก เวสต์แฮม ไปอยู่กับ เชลซี ในซัมเมอร์ปี 2003 ด้วยค่าตัวราว 10 ล้านปอนด์ ก่อนที่เขาจะประสบความสำเร็จมากมายไม่ว่าจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 3 สมัย รวมถึงแชมป์ลีก คัพ อีก 2 สมัย
อย่างไรก็ตามอาการบาดเจ็บก็ตามเล่นงานเขาบ่อยๆ จนท้ายที่สุด เชลซี ก็ไม่ต่อสัญญาและ โคล ก็ย้ายไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในช่วงสั้นๆ แต่ไม่ประสบความสำเร็จก่อนโดนส่งให้ ลีลล์ ยืมตัวไปใช้งานจนหมดสัญญา และสุดท้ายก็กลับมาอยู่กับ เวสต์แฮม อีกครั้งในปี 2012 ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นนัก หนึ่งฤดูกาลครึ้งกับเวสต์แฮม โคล ได้ลงเล่นทั้งหมด 31 เกม และเป็นตัวจริงเพียง 13 เกมเท่านั้น นอกจากนี้อาการบาดเจ็บยังคงติดตัวเขาเรื่อยมาและเมื่อบวกกับค่าเหนื่อยระดับ 50,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ทำให้เขาไม่ได้รับสัญญาฉบับใหมและต้องกลายเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์หลังจากจบฤดูกาล แม้แต่ตัวเขาเอง ยังยอมรับในภายหลังว่านับตั้งแต่ย้ายออกจาก เชลซี ก็ถึงช่วงเวลาขาลงของเขาอย่างเต็มตัว
“ผมรู้ดีว่าตอนที่ย้ายออกจากเชลซี ผมเคลื่อนไหวไม่ได้เหมือนแต่ก่อน มันยากที่จะกลับมามีความมั่นใจแบบเต็มเปี่ยม ผมยังเจออาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่เรื่อยๆ โอเคล่ะ ผมอาจจะมีความทรงจำดีๆ อยู่บ้าง แต่ด้วยความสัตย์จริง ผมคิดว่าผมควรย้ายออกจากอังกฤษไปเล่นที่ต่างแดนทันที หลังออกจากเชลซี อย่างฟุตบอลที่ฝรั่งเศสนั้นช้ากว่าบอลอังกฤษพอสมควร ซึ่งที่นั่นมันเหมาะกับผมมากกว่า ผมคิดว่า ลิเวอร์พูล คือ สโมสรที่ใช่สำหรับผม เพียงแต่ผมย้ายไปผิดเวลาก็เท่านั้น” โคล กล่าวเอาไว้เมื่อปี 2016
ปัจจุบันในวัย 35 ปี แม้จะไม่ค่อยได้ยินข่าวคราวจากเขาเท่าไหร่นัก แต่โคลยังคงค้าแข้งอยู่กับ แทมป้า เบย์ โรว์ดีส์ สโมสรในนอร์ธ อเมริกัน ซ็อคเกอร์ลีก ประเทศสหรัฐอเมริกา
มาติเยอ ฟลามินี่ (อาร์เซน่อล)
อาร์เซน่อล จ่ายเงินให้กับ โอลิมปิค มาร์กเซย เพียง 4 แสนปอนด์เท่านั้น เพื่อคว้าตัว มาติเยอ ฟลามินี่ ในวัย 20 ปีมาร่วมทีม ก่อนที่มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสจะกลายเป็น 1 ในกำลังสำคัญของทัพปืนใหญ่ในเวลาต่อมา
นับตั้งแต่หมดยุค จิลแบร์โต้ ซิลวา อาร์เซน่อล ก็ได้ ฟลามินี่ นี่แหละที่พอจะทดแทนการจากไปของห้องเครื่องชาวเเซมบ้าได้ ฟลามินี่ เป็นนักเตะที่แม้จะไม่ได้ชื่อดังแต่ความขยันและความมุ่งมั่นของเขาก็กลายเป็นที่ยกย่องและเป็นส่วนเติมเต็มให้กับเเดนกลางของทีมที่มี เชส ฟาเบรกาส เป็นแผนกสร้างสรรเกมรุกอยู่ข้างหน้าเขา gนื้อหอมสุดๆ แต่สุดท้ายเขาก็เลือกกลับถิ่นเก่าอย่าง อาร์เซน่อล อีกครั้ง
ทว่าหนนี้ไม่เหมือนเดิม ในวัย 31 ปี ฟลามินี่ นั้นมีแต่จะถดถอยลงในทุกด้านๆ ความเร็วของเขาลดลงตามกาลเวลา มีการเก็บสถิติอย่างชัดเจนโดยเฉพาะในเกมที่บุกเยือน บอร์นมัธ เมื่อปี 2015 ที่เขาผ่านบอลเพียง 47 ครั้งตลอดทั้งเกม และ มีเพียงไม่ถึงครึ่งที่เป็นการผ่านบอลขึ้นหน้า โดยส่วนใหญ่นั้น เขาจะจ่ายบอลคืนหลังให้เพื่อนร่วมชาติอย่าง โลร็องต์ กอสเซียลนี(9 ครั้ง)นอกจากนี้ ฟลามินี่ เกือบจะโดนไล่ออกตั้งแต่ต้นเกม หลังเสียบสองเท้าใส่ แดน กอสลิ่ง อย่างน่าเกลียด ทั้งยังต้องตัดเกมหนักๆใส่เจ้าถิ่นหลายครั้ง เพราะว่า ตามเกมไม่ทัน
ส่วนใหญ่บทบาทของเขายังรับหน้าที่เป็นตัวสำรองของ ฟรานซิส โกเกอแล็ง อีกต่างหาก แม้การกลับถิ่นเก่าหนนี้จะมีบทสรุปโดยรวมที่การคว้าเเชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย แต่ภาพลักษณ์ของเขาดูจะติดลบมากกว่าเพราะการเล่นผิดพลาดบ่อยครั้ง และท้ายเขาก็ย้ายไปอยู่กับ คริสตัล พาเลซ ในฤดูกาลที่ผ่านมา
คลิ๊กลิงค์ —>
คลิ๊กลิงค์ —> .