ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม 2561
แมนฯ ยูไนเต็ด 2– 1 ลิเวอร์พูล
Manchester United 2–1 Liverpool
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ศึกแดงเดือด ชิงอันดับรองจ่าฝูง เจ้าบ้าน “ปีศาจแดง” ไร้ ปอล ป็อกบา ที่เจ็บ มี ฆวน มาต้า ประสานงานในเกมรุกกับ โรเมลู ลูกากู, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อเล็กซิส ซานเชซ ขณะที่เกมรับได้ เอริก ไบยี่ คืนทัพ ส่วน “หงส์แดง” มาเต็มนำโดยสามประสาน โม ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
ลิเวอร์พูลเดินหน้าลุยทันทีที่ผู้ตัดสิน เคร็ก พอว์สัน เป่าเริ่ม แต่เมื่อเข้าสู่ น.14 แฟนผีเฮกระหึ่ม เมื่อ ดาบิด เด เคอา วางยาวจากแนวรับให้ ลูกากู โขกเช็ดต่อไปถึง แรชฟอร์ด สปีดทะลุเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนล็อกหลบ เทรนด์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แล้วซัดด้วยขวาเสียบเสาสองสุดงามให้ แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 1-0
น.18 หงส์แดงมีโอกาส เมื่อ ฟีร์มิโน่ วิ่งไปล้วงบอลทางด้านซ้าย ก่อนโยนไปเสาสอง มาเน่ โดดไม่ถึงนิดเดียวเท่านั้น
ลิเวอร์พูลน่าได้สุดๆ ในน.23 จากจังหวะเตะมุมด้านซ้าย เจมส์ มิลเนอร์ เปิดลูกเตะมุมเข้ากลาง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ พุ่งโขกถากเสาเหลือเชื่อ
อย่างไรก็ตาม น.24 กลายเป็นเจ้าถิ่นหนี 2-0 เมื่อ เดยัน ลอฟเร็น โหม่งสกัดไม่ดี บอลตกถึง ลูกากู ไหลให้ มาต้า หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนโดนกองหลังจิ้มมาเข้าทาง แรชฟอร์ด อัดแฉลบ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ บางๆ เข้าไป
หงส์แดง ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เร่งเครื่อง ก่อนครึ่งชั่วโมง ฟีร์มิโน่ ได้โอกาสสับไกสองครั้ง แต่ไม่ผ่านมือ เด เคอา
แมนฯ ยูไนเต็ด น่าได้เพิ่มในน.38 จากจังหวะที่ อ. ยัง เติมขึ้นทางซ้ายก่อนตักเข้ากลางให้ มาต้า ที่ยืนคนเดียวโล่งๆ จักรยานอากาศแบบสุดสวยหลุดกรอบไปชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด จบครึ่งแรก เจ้าถิ่นนำ 2-0
ครึ่งหลัง หงส์แดงไม่มีทางเลือกนอกจากเดินหน้าลุย ขณะที่เจ้าบ้านถอยไปเน้นรับ น.54 ลิเวอร์พูลโวยจะเอาจุดโทษเพราะมองว่า อันโตนิโอ วาเลนเซีย ทำแฮนด์บอล แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร
ผ่านหนึ่งชั่วโมง คล็อปป์ แก้เกมด้วยการถอด อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ออกแล้วส่ง อดัม ลัลลาน่า จอมลีลาลงมาหวังพลิกเกม
น.66 ลิเวอร์พูล ตีไข่แตกได้เสำเร็จจนได้ไล่มา 2-1 เมื่อ มาเน่ กระชากขึ้นทางซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลาง ไบยี่ พยายามพุ่งเข้าสกัดกลายเป็นการทำเข้าประตูตัวเองไป และ ไบยี่ เจ็บจากจังหวะนี้ด้วย แต่กัดฟันเล่นต่อ ก่อนที่ มูรินโญ่ จะถอด แรชฟอร์ด ออกแล้วส่ง มารูอาน เฟลไลนี่ ลงสนาม
ลิเวอร์พูลได้ใจ บุกขโยกหวังทวงประตูตีเสมอ น.80 คล็อปป์ ถอด อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ออกแล้วส่ง จอร์จินโญ่ ไวนัลดุม ลงแทน พร้อมกับโยก มิลเนอร์ ไปยืนแบ๊กขวา น.82 เฟลไลนี่ ปะทะกับ มาเน่ ในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินก็ไม่ว่าอะไร
หงส์แดง ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ส่ง โดมินิก โซลันกี้ แทน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ขณะที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ส่ง เจสซี่ ลินการ์ด แทน มาต้า ในน.88 ก่อนจะรักษาสกอร์นำในช่วงเวลาทดเจ็บ 6 นาที คว้าสามแต้มไปได้สำเร็จด้วยสกอร์ 2-1 ยึดอันดับสองทิ้งหงส์แดง 5 แต้ม
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, คริส สมอลลิ่ง, เอริค ไบยี่, แอชลี่ย์ ยัง,สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เนมานย่า มาติช, ฆวน มาต้า (เจสซี่ ลินการ์ด น.89), มาร์คัส แรชฟอร์ด (มารูยาน เฟลไลนี่ น.69), โรเมลู ลูกากู, อเล็กซิส ซานเชซ (มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน น.90+)
สำรอง : เซร์คิโอ โรเมโร่, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, ไมเคิล คาร์ริค, ลุค ชอว์
ลิเวอร์พูล : ลอริส คาริอุส, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (จอร์จินโญ่ ไวนัลดุม น.80), เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (โดมินิค โซลันกี้ น.84), อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (อดัม ลัลลาน่า น.61), เจมส์ มิลเนอร์, เอ็มเร่ ชาน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
สำรอง : ซิมง มินโยเล่ต์, โจ โกเมซ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โฌแอล มาติป
ที่มา : [Siamsport]
คลิ๊กลิงค์ —> เเทงบอล
คลิ๊กลิงค์ —> ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์