ปรีวิว ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง)
วันอังคารที่ 6 มีนาคม 2561
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) – เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
Liverpool (English) – FC Porto (Portugal)
(นัดแรก ลิเวอร์พูล ชนะ 5-0)
ถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 2, เวลา : 02.45 น.
สนาม : แอนฟิลด์
เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ ”หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พาทีมถล่มเอาชนะไปก่อนถึง 5-0 ในนัดแรก ผลงานล่าสุดชนะนิวคาสเซิ่ล 2-0 ในเกมลีก เป็นการคว้าชัย 4 นัดติด
สภาพทีมเกมนี้คล็อปป์จะได้ เอ็มเร่ ชาน พ้นโทษแบนกลับมาเป็นตัวเลือก นอกจากนั้นไม่มีปัญหาอะไรเพิ่มเติม และจากการที่นัดแรกตุนไว้อื้อถึง 5 เม็ด ก็เป็นไปได้ที่คล็อปป์จะมีการปรับทัพ เพื่อเปิดโอกาสให้บรรดาแข้งสำรองบางรายได้โอกาสลงโชว์ฝีเท้าบ้า
ผู้เล่นอย่าง อดัม ลัลลาน่า อาจจะลงป่วนในแนวรุก หลังสลัดอาการบาดเจ็บได้แล้ว เช่นเดียวกับ เจมส์ มิลเนอร์ จอมเก๋าที่น่าจะได้รับโอกาสบ้าง
รวมไปถึง โดมินิก โซลันกี้ ก็มีลุ้นที่จะได้ทะลวงตาข่ายเช่นเดียวกัน ขณะที่ โม ซาลาห์ ที่ล้ากรอบมาจากหลายเกม อาจได้พักบ้าง เช่นเดียวกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
แซร์โจ้ คอนไซเซา เทรนเนอร์เอฟซี ปอร์โต้ พาทีมแพ้ลิเวอร์พูลคารัง 0-5 ในนัดแรก ผลงานล่าสุดชนะสปอร์ติ้ง ลิสบอน 2-1 ในเกมลีก เป็นการคว้าชัย 4 นัดติดเช่นกัน
สภาพทีมเกมนี้ที่แน่ๆ คอนไซเซาจะได้เฟลิเป้ กองหลังพ้นโทษแบนกลับมา ส่วนแกนหลักรายอื่นๆ อย่าง เอ็คตอร์ เอร์เรร่า กองกลางกัปตันทีม และหัวหอกตัวเก่ง ติกินโญ่ โซอาเรส ต่างพร้อมช่วยทีมเหมือนเดิม
คาดว่าทีมดังจากปอร์โต้ไม่มีทางเลือก คงต้องเน้นชุดใหญ่ไป หวังปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น แนวรุกยังอยู่กันพร้อมทั้ง มุสซ่า มาเรก้า, โอตาวินโญ่, ยาซีน บราอิมี่ และ ติกินโญ่ โซอาเรส
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ลอริส คาริอุส – โจ โกเมซ, โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ – เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน – ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (โดมินิก โซลันกี้),
เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์
เอฟซี ปอร์โต้ (4-2-3-1) : โชเซ่ ซา – ริคาร์โด้ เปเรยร่า, ดีเอโก้ เรเยส, อีบัน มาร์กาโน่, อเล็กซ์ เตลเลส – เอ็คตอร์ เอร์เรร่า, แซร์โจ้ โอลิเวยร่า – มุสซ่า มาเรก้า, โอตาวินโญ่, ยาซีน บราอิมี่ – ติกินโญ่ โซอาเรส
เทรนเนอร์ : แซร์โจ้ คอนไซเซา
ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ (เยอรมัน)
ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
– หงส์หวังเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศให้ได้เป็นครั้งแรกนับแต่ปี 2009 ซึ่งนัดแรกคู่นี้ที่เจอกันลิเวอร์พูลบุกไปอัดปอร์โต้ ตุนมาถึง 5-0 ซึ่งถือเป็นสถิติแพ้ยับสุดของทีมจากโปรตุเกสในยูโรเปี้ยนด้วย เกมนั้น ซาดิโอ มาเน่ แฮตทริก และอีกสองลูกเป็น โม ซาลาห์ กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ อีกคนละตุง
– ปอร์โต้ มีสถิติเสมอ 2 และแพ้ 3 ใน 5 เกมหลังที่เจอกับทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ พวกเขาเล่นในรอบ 16 ทีมเป็นปีที่สองติดต่อกัน เคยเข้าถึงรอบก่อนรองปี 2014/15
– ปอร์โต้ เข้ารอบน็อกเอาต์มาถึงตรงนี้ได้ด้วยการเป็นอันดับ 2 กลุ่ม จี ส่วนหงส์แดง เป็นแชมป์กลุ่ม อี (ชนะ 3, เสมอ 3)
– นี่เป็นหนึ่งในสองทีมอดีตแชมป์ถ้วยนี้เจอกันในรอบ 16 ทีม ซึ่งอีกคู่คือ เชลซี เจอ บาร์ซ่า
– ลิเวอร์พูลไม่สามารถมาถึงรอบ 16 ทีมได้เลยใน 9 ปีหลัง ซึ่งหนสุดท้ายที่มาถึงได้คือชนะ 5-0 เหนือ เรอัล มาดริด ในปี 2008/09 (เยือน 1-0, เหย้า 4-0) นั่นทำให้พวกเขามีสถิติในรอบนี้คือ ชนะ 4, แพ้ 1
– การแพ้ต่อเบนฟิก้าที่บ้านตัวเองถือเป็นครั้งเดียวที่หงส์แดงมีต่อทีมจากโปรตุเกส ที่เหลือ (ชนะ 6, เสมอ 2)
– ลิเวอร์พูลครั้งล่าสุดที่เจอกับทีมจากโปรตุเกสคือเสมอ 0-0 กับ บราก้า ปี 2010/11 ในยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมนัดสอง ทำให้ หงส์มีสถิติชนะ 5, แพ้ 2 ใน การแข่งสองนัดกับทีมจากโปรตุเกส
– ก่อนที่จะเสมอกับ เซบีย่า ลิเวอร์พูล 6 เกมยูโรเปี้ยน ก่อนหน้าที่แอนฟิลด์ จบลงด้วยการชนะ พวกเขาไม่แพ้ใคร 13 เกมหลังสุดในบ้านเกมยุโรป (ชนะ 9, เสมอ 4) นับแต่แพ้ 0-3 ต่อ ราชัน เมื่อ 22 ตุลาคม 2014
– ลิเวอร์พูลมีสถิติการดวลโทษในถ้วยยุโรป คือ ชนะ 3, แพ้ 1
– ปอร์โต้ สถิติในรอบ 16 ทีมคือ ชนะ 3, แพ้ 6 และชนะแค่หนเดียวจาก 4 หนหลัง โดยปี 2016/17 พวกเขาตกรอบนี้ด้วยน้ำมือยูเว่
– ปอร์โต้ ชนะแค่นัดเดียวจาก 5 เกมเยือนยุโรปนั่นคือ โมนาโก ที่เหลือเสมอ 2, แพ้ 2
– ปอร์โต้ ชนะแค่เกมเดียวจาก 7 เกมยุโรปที่พวกเขาแพ้นัดแรกคาบ้านมาก่อน นั่นคือตอนเจอกับ พานาธิไนกอส ในยูฟ่า คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ปี 2002/03
ที่มา : [SIAMSPORT]
คลิ๊กลิงค์ —> เเทงบอล
คลิ๊กลิงค์ —> ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์