ฟุตบอลลา ลีกา สเปน
วันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2561
บาเลนเซีย 1 – 4 เรอัล มาดริด
สนาม: เอสตาดิโอ เด เมสตาย่า, (บาเลนเซีย)
“ไอ้ค้างคาว” บาเลนเซีย ต้องขาด กาเบรียล เปาลิสต้า กับ รูเบน เวโซ่ สองกองหลังคนสำคัญที่ติดโทษแบน รวมไปถึง เฮยซอน มูรีโญ่ กองหลังชาวโคลอมเบีย ที่มีอาการบาดเจ็บ เลยต้องถอย ฟร็องซิส โกเกแล็ง จากกองกลางลงมายืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ เอเซเกล การาย กองหลังชาวอาร์เจนไตน์
ทางด้าน “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด แชมป์เก่าลา ลีกา ที่ซีซั่นนี้ผลงานย่ำแย่นั้น ไม่มี ดาเนียล เซบาโยส กับ เฆซุส บาเยโฆ่ ที่ไม่สมบูรณ์ รวมไปถึง อีสโก้ ที่ไม่สมบูรณ์
สามประสานแดนหน้าส่ง แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงมาล่าตาข่ายพร้อมกัน ซึ่งนับเป็นหนแรกในรอบกว่า 280 วันที่แนวรุกฉายา “บีบีซี” ได้ออกสตาร์ทพร้อมกัน
EMBED : 00079999
เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 7 นาที แกเร็ธ เบล สตาร์ชาวเวลช์ของทัพชุดขาว วางเท้ายิงด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือของ เนโต้ นายทวารชาวบราซิลของบาเลนเซีย
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 16 ราชันชุดขาว มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ มาร์เซโล่ เปิดจากซ้ายมาหน้ากรอบเขตโทษด้านขวาให้ เบนเซม่า ชิ่งเข้าในให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สอดมาลากเข้ากรอบเขตโทษ แล้วโดน มาร์ติน มอนโตย่า แบ็คขวาเจ้าถิ่นเสียบล้มลงไป ผู้ตัดสินเป่าทันที ก่อนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รับหน้าที่สังหารด้วยขวาเข้าประตูไปให้ เรอัล มาดริด นำก่อน 1-0 และเป็นประตูที่ 7 ของดาวเตะวัย 32 ปี ชาวโปรตุกีสในลา ลีกา ซีซั่นนี้
ผ่านมา 25 นาที บาเลนเซีย โต้ขึ้นมาบ้าง โรดรีโก้ โมเรโน่ จ่ายให้กับ เชฟเฟร่ย์ กงด็อกเบีย ส่องด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษ ติดเซฟของเคย์ลอร์ นาวาส นายทวารของเรอัล มาดริด
มาถึงนาทีที่ 38 ทีมเยือนมาได้จุดโทษอีกครั้ง เมื่อ มาร์ติน มอนโตย่า แบ็คขวาไอ้ค้างคาว ไปกระแทกใส่หลังของ คาริม เบนเซม่า กองหน้าทีมเยือนที่กำลังจะขึ้นโหม่ง ผู้ตัดสินเป่าทันที ก่อนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เจ้าเก่ารับหน้าที่สังหารด้วยขวาส่งบอลเสียบมุมซ้ายเข้าไปช่วยให้ เรอัล มาดริด นำห่าง 2-0 เป็นประตูที่สองของคริสเตียโน่ ในเกมนี้ และเป็นประตูที่ 8 ของคริสเตียโน่ ในลา ลีกา ซีซั่นนี้ หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด บุกมานำก่อน 2-0
มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง บาเลนเซีย เปลี่ยน กอนซาโล่ เกดิส ออกมาพักแล้วส่ง การ์ลอส โซเลร์ ลงมาเล่นแทน
กระเถิบมานาทีที่ 54 เรอัล มาดริด ได้โอกาสก่อนจากจังหวะที่ ดาเนียล การ์บาฆาล เปิดให้กับ คาริม เบนเซม่า กดด้วยซ้ายเฉี่ยวเสาซ้ายออกไป
อย่างไรก็ตาม ไอ้ค้างคาว มาได้ประตูไล่ตีตื้นมาเป็น 1-2 ในนาทีที่ 58 จากจังหวะที่ ดาเนียล ปาเรโฆ่ โยนลูกเตะมุมจากทางด้านขวาเข้ามาให้ ซานตี มีน่า เทคตัวโหม่งเช็ดบางๆ ลงพื้น บอลเด้งเสียบมุมซ้ายเข้าไป
เจ้าถิ่นได้ใจแล้ว มีลุ้นในนาทีที่ 66 โรดรีโก้ โมเรโน่ ผ่านให้กับ ดาเนียล ปาเรโฆ่ ยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษติดเซฟของเคย์ลอร์ นาวาส
สองนาทีต่อมา เรอัล มาดริด สวนเร็วขึ้นมาทาง แกเร็ธ เบล กระชากไปสุดเส้นด้านขวาแล้วตบเข้ากลางให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงด้วยขวา เนโต้ นายทวารบาเลนเซีย ปัดไว้ได้ ก่อนตามไปรับไว้อีกครั้ง
เรอัล มาดริด แก้เกมด้วยการส่ง ลูกัส บาซเกซ ลงมาเล่นทางกราบขวาแทน แกเร็ธ เบล ในนาทีที่ 69
ท้ายเกมนาทีที่ 82 ราชันชุดขาว น่าได้ประตูที่สาม เมื่อ โมดริช เปิดจากกราบขวาให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตวัดยิงด้วยขวาแฉลบกองหลังของเจ้าบ้านออกหลังไป
ถัดมาสองนาที เรอัล มาดริด มาได้ประตูนำห่าง 3-1 จนได้จากจังหวะที่ มาร์เซโล่ ฝากบอลทำชิ่งกับ มาร์โก อาเซนซีโอ ที่คืนบอลกลับให้ มาร์เซโล่ หลุดเข้าไปทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนซัดด้วยซ้ายลอดขาของ เนโต้ นายทวารบาเลนเซีย เข้าประตูไป
ก่อนหมดเวลานาทีเดียว พลพรรคราชันชุดขาว มาได้ประตูที่สี่ เมื่อ มาเตโอ โควาซิซ ที่ลงมาเป็นสำรองไขว้คืนให้ โทนี่ โครส กองกลางชาวเยอรมันวัย 28 ปี ปั่นด้วยขวาจากหน้าเขตโทษบอลเสียบมุมขวาเข้าไปอย่างสวยงามช่วยให้ เรอัล มาดริด นำขาด 4-1
เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกม เรอัล มาดริด บุกมาทุบ บาเลนเซีย สวยงาม 4-1 เก็บสามแต้มสำคัญ
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บาเลนเซีย: เนโต้ – มาร์ติน มอนโตย่า, เอเซเกล การาย, ฟร็องซิส โกเกแล็ง, โตนี่ ลาโต้ (อันเดรียส เปเรยร่า น.77) – กอนซาโล่ เกดิส (การ์ลอส โซเลร์ น.46), ดาเนียล ปาเรโฆ่ (กัปตันทีม), เชฟเฟร่ย์ กงด็อกเบีย, โฆเซ่ กาย่า – โรดรีโก้ โมเรโน่, ซานตี มีน่า
สำรอง: ฆวาเม่ โดเมเน็ช (ผู้รักษาประตู) – เนมานย่า มัคซิโมวิช, นาโช่ บีดาล, ซิโมเน่ ซาซ่า, ลูเซียโน่ เวียตโต้
เรอัล มาดริด: เคย์ลอร์ นาวาส – ดาเนียล การ์บาฆาล, ราฟาแอล วาราน, นาโช่ เฟร์นานเดซ, มาร์เซโล่ วิเอยร่า (กัปตันทีม) – ลูก้า โมดริช (มาเตโอ โควาซิซ น.88), คาเซมีโร่, โทนี่ โครส – แกเร็ธ เบล (ลูกัส บาซเกซ น.69), คาริม เบนเซม่า (มาร์โก อาเซนซีโอ น.78), คริสเตียโน่ โรนัลโด้
สำรองไม่ได้ใช้: กีโก้ กาซีย่า (ผู้รักษาประตู) – เตโอ แอร์กน็องเดซ, มาร์กอส ยอเรนเต้, บอร์ฆา มาโยราล
ผู้ตัดสิน: ฆาเบียร์ เอสตราด้า เฟร์นานเดซ
ที่มา:[Siamsport]
คลิ๊กลิงค์ —> เเทงบอล
ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์